ตลอดเวลาที่ผ่านมาอนาคตของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้า อาร์เซน่อล สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หลังจากที่มีการมองกันว่าเขาอาจจะไม่อยากทนอยู่กับ อาร์เซน่อล อีกต่อไป และในช่วงไม่นานมานี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมร่วมลีกของ "ไอ้ปืนใหญ่" ก็โผล่มาเป็นหนึ่งในทีมที่มีข่าวกับดาวเตะชาวกาบอง
ทั้งนี้ พอล เมอร์สัน อดีตดาวเตะคนดังของ อาร์เซน่อล ถึงขั้นออกมาบอกเองเลยว่าถ้าเกิด โอบาเมยอง ย้ายไปอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วล่ะก็ "ปีศาจแดง"ก็จะกลายเป็นทีมที่โหดสุดๆ และแข้งวัย 30 ปีก็อาจจะเป็นจิ๊กซอว์ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ตามหาอยู่สำหรับการกลับไปเป็นยอดทีมก็ได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าลองเจาะลึกกันแล้วนั้น ตำแหน่งในแนวรุกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องทำการเสริมทัพจริงๆ ในตอนนี้ไม่ใช่กองหน้า แต่เป็นตัวริมเส้นต่างหาก และตัวเลขเหล่านี้ก็เป็นหนึ่งในหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น
- การครอสบอล ในฤดูกาลนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ให้หลายคนสลับหน้ากันมาเล่นเป็นกองหน้าตัวริมเส้น ไม่ว่าจะทั้ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เมสัน กรีนวู้ด ซึ่งรายของ มาร์กซิยาล เป็นนักเตะประเภทที่เหมาะจะเล่นตรงริมเส้นในระดับหนึ่ง จากการที่มีทักษะการเลี้ยงบอลที่ดี แต่ปัญหาคือปีกอาชีพคนอื่นๆ ที่พอจะช่วยทีมได้มันมีไม่มากนัก เพราะปีกตามธรรมชาติที่เหลือของทีมมีเพียง แดเนี่ยล เจมส์ ที่ยังอายุน้อยอยู่ กับ เจสซี่ ลินการ์ด ที่ฟอร์มฝากผีากไข้ไม่ได้ ขณะที่ ฆวน มาต้า เดิมทีก็ไม่ใช่ปีกอาชีพอยู่แล้ว
เรื่องดังกล่าวทำให้ฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีผลงานด้านการครอสบอลที่แย่ตามไปด้วย ตลอดทั้งฤดูกาลนี้พวกเขาครอสบอลเชข้าเป้าในลีกเพียงเฉลี่ยแล้ว 17 ครั้งต่อเกม น้อยที่สุดเป็นอันดับ 7 ของลีก และห่างจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบเยอะพอตัว หลังจากของ "เรือใบสีฟ้า" อยู่ที่เฉลี่ยแล้ว 26 ครั้งต่อนัด
นี่ถือเป็นจุดที่แตกต่างมากที่สุดระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ยุคนี้ กับสมัยของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่รุ่งเรืองอย่างมากก็ว่าได้ เพราะสมัยก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด มีปีกชั้นยอดอย่าง เดวิด เบ็คแฮม กับ ไรอัน กิ๊กส์ ให้ใช้งาน และทำให้เกมริมเส้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด อันตรายสุดๆ
- การเลี้ยงบอล 3 อันดับแรกของนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีค่าเฉลี่ยการเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งในลีกสูงที่สุดประจำฤดูกาลนี้นั้น ได้แก่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ครองอันดับ 1 ด้วยค่าเฉลี่ย 2 หนต่อเกม ตามมาด้วย อารอน วาน-บิสซาก้า ที่ค่าเฉลี่ย 1.7 ครั้งต่อเกม ส่วนที่ 3 มีอยู่ 3 คน ได้แก่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, เฟร็ด และ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่เฉลี่ย 1.5 ครั้งต่อเกม
จะเห็นได้ว่าในจำนวนนั้นมีเพียง 2 คนที่เป็นตัวบุกตรงริมเส้น นั่นก็คือ แรชฟอร์ด กับ มาร์กซิยาล ขณะที่อีก 3 คน กลับเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางซะ 2 ราย และแบ็กขวาที่เก่งเรื่องเกมรับมากกว่าเกมรุกอีก 1 คน แล้วตัวริมเส้นตามธรรมชาติอย่าง เจมส์ กับ ลินการ์ด เป็นยังไงน่ะเหรอ ? คำตอบคืออยู่ที่เฉลี่ย 1 ครั้งต่อเกม กับ 0.7 หนต่อนัด ตามลำดับ
- ตันฝั่งขวา ในขณะที่เกมริมเส้นโดยรวมของ แมนฯ ยูไนเต็ด มันย่ำแย่นั้น ถ้าเจาะลึกเข้าไปแล้วก็จะพบว่าฝั่งขวาคือตำแหน่งที่น่าเป็นห่วง ตลอดทั้งฤดูกาลนี้พวกเขาขึ้นเกมบุกจากทางฝั่งขวาแค่ 35 เปอร์เซ็นต์ น้อยที่สุดเป็นอันดับ 6 ร่วมของลีก ขณะที่ทางฝั่งซ้ายอยู่ที่ 42 เปอร์เซ็นต์ สูงเป็นอันดับ 3 ร่วมของลีก ซึ่งส่วนหนึ่งที่พวกเขาไม่ขึ้นเกมทางฝั่งขวาก็เป็นเพราะมันไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่
นอกจากนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเป็นทีมที่มีจังหวะพยายามทำประตูจากทางฝั่งขวาน้อยที่สุดเป็นอันดับ 4 ร่วมของลีกด้วย จากจำนวนเพียง 12 เปอร์เซ็นต์ สวนทางกับตรงฝั่งซ้ายที่มีจังหวะทำประตู 26 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ของลีกอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าถามต่อว่าแล้วใครที่รับบทตัวริมเส้นฝั่งขวาให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นหลักในฤดูกาลนี้ คำตอบก็คือ เจมส์ นั่นเอง จริงอยู่ว่าดาวเตะชาวเวลส์มีความเร็วที่น่าทึ่ง แต่แค่นั้นมันก็ยังไม่มากพอที่จะแบกเกมรุกของทีมได้ แถมหลายครั้ง เจมส์ ยังดื้อเกินไปจนเลี้ยงไปติดคู่แข่งด้วย ถ้าเขาแก้ปัญหาตรงจุดนี้ได้ก็ถือว่าดีไป แต่ถ้าเจ้าตัวยังต้องใช้เวลาฝึกฝีเท้ามากกว่านี้แล้วล่ะก็ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็อาจจะจำเป็นต้องช็อปตัวริมเส้นฝั่งขวามาร่วมทีมเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
ไม่มีใครปฏิเสธว่า โอบาเมยอง เป็นกองหน้าชั้นยอด รางวัลดาวซัลโวสูงสุดร่วมของ พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลก่อน และการที่ซีซั่นนี้ก็กำลังมีลุ้นรางวัลดาวซัลโวอีกมันเป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงคุณภาพของเขา เพียงแต่ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการตัวริมเส้นฝีเท้าดีมากกว่าก็เท่านั้น บอลออนไลน์
Comments